การเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟ

โดย: admin [IP: 118.174.183.xxx]
เมื่อ: 2017-12-25 15:58:11
แฟลชไดร์ฟ ยูเอสบี แฮนดี้ไดร์ฟ หลากหลายชื่อเรียกที่ไม่ว่าใครจะเรียกชื่อไหน ก็เป็นที่รู้กันว่า เป็นอุปกรณ์เล็กๆ ที่สามารถบันทึกได้ทั้งไฟล์เอกสาร ไฟล์เพลง รูปภาพ ภาพยนตร์ต่างๆ โดยสามารถถ่ายโอนจากคอมเครื่องหนึ่งไปยังคอมอีกเครื่องหนึ่งได้ในเวลาอันรวดเร็ว หรือว่า นำไปเสียบกับอุปกรณ์ต่างๆที่มีช่องยูเอสบีได้ โดยวันนี้เราจะมาแนะนำเรื่องของการเลือกซื้อแฟลชไดร์ฟกัน

1.ความจุ แฟลชไดร์ฟนั้นมีความจุที่ต่างกัน เพราะฉะนั้นเราก็ต้องดูว่า เราจะนำแฟลชไดร์ฟไปใช้ในการบันทึกไฟล์งานอะไร เพื่อจะได้เลือกความจุให้ถูกต้อง ถ้าบันทึกไฟล์เอกสารธรรมดาก็น่าจะเลือกใช้ความจุ 8 GB แต่ถ้าจะไปบันทึกไฟล์เพลงหรือภาพเคลื่อนไหวก็คงต้องใช้ความจุที่สูงกว่านี้

2.พอร์ตในการเชื่อมต่อ เมื่อก่อนมีแค่ 2.0 เท่านั้น แต่ในปัจจุบันมีถึง 3.0 แล้ว ซึ่งพอร์ตในการเชื่อมต่อ มีความสำคัญตรงที่ว่า ช่วยให้การถ่ายโอนข้อมูลทำได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

3.รูปร่างรูปทรง ปกติแล้วจะมีแบบเดียวแหละ ส่วนใหญ่เป็นเป็นแท่งๆ แต่ในปัจจุบันนี้แฟลชไดร์ฟก็มีหลากลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น รวมถึงทำจากวัสดุหลายอย่างด้วย เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในการใช้งานให้มากที่สุด บางครั้งก็อาจจะเป็นแฟลชไดร์ฟที่ผลิตขึ้นใช้ในบางโอกาส เช่น แฟลชไดร์ฟพรีเมี่ยมที่บริษัทสั่งผลิต เป็นต้น

4.มีประกันหรือไม่ หากเป็นแฟลชไดร์ฟพรีเมี่ยมที่สั่งผลิตขึ้นมา จะมีอายุการรับประกันที่ 1 ปี แต่หากเป็นยี่ห้อที่ดีๆหน่อยจะมีการรับประกันนานถึง 5 ปี แม้ว่าจะมีการรับประกันที่ยาวนานขนาดไหน สิ่งที่สำคัญ นั่นคือการดูแลรักษาหลังการใช้งานต่างหากที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน และยังเป็นการป้องกันข้อมูลไม่ให้เสียหายด้วย

5.แฟลชไดร์ฟปลอม อันนี้ก็ควรระวัง เพราะว่า หากเป็นของปลอมก็อาจจะใช้บันทึกข้อมูลไม่ได้ หรือว่ามีปัญหาในการใช้งานต่างๆได้ เพราะฉะนั้นควรเลือกซื้อกับร้านค้าที่มีคุณภาพมาตรฐาน โดยอาจปกติแล้วถ้าของแท้จะมีใบรับประกันให้ตลอด

หากใครกำลังอยากได้แฟลชไดร์ฟสักตัวหนึ่งไว้ใช้งาน ก็ลองนำวิธีการเลือกซื้อที่บอกไว้ไปใช้ดูนะ รับรองว่าคุณจะได้แฟลชไดร์ฟที่มีตรงกับความต้องการของคุณ สามารถใช้งานได้ดี และเมื่อเกิดความเสียหายก็สามารถเคลมประกันได้ที่ร้านที่คุณไปซื้อมา ของดีราคาถูกไม่มีในโลกหรอก ถ้ามีก็อาจจะไม่มีคุณภาพมากพอก็ได้ เพราะฉะนั้นเลือกราคาที่เข้ากันได้กับสินค้าจะดีที่สุด และอย่าลืมดูแลรักษาให้ดีด้วยล่ะ เพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน และไม่สะดุดให้อารมณ์เสียเวลาทำงานด้วย

ชื่อผู้ตอบ: